เหตุประเด็นประกาศเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงไซออนิสต์

ต้องยอมรับว่าด้วยความที่สหรัฐฯ เป็นประเทศมหาอำนาจของโลกดังนั้นการที่ผู้นำของเขาคิดจะสั่งการ หรือ ทำอะไรส่วนมากมักจะได้ผลตอบรับเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ได้มีการประกาศให้เยรูซาเล็มกลายเป็นเมืองหลวงของกลุ่มไซออนิสต์ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจากสิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างทั้งความพอใจและความไม่พอใจ ให้กับหลายฝ่ายอยู่ไม่น้อยกับการเปลี่ยนแปลงโลกอีกครั้งโดยผู้นำสหรัฐฯ

ประเด็นที่น่าสนใจของการประกาศเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของไซออนิสต์

การรับรองเมืองเยรูซาเล็มของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ได้สร้างการจับตามองจากคนทั่วโลกที่พุ่งเป้าไปหาชาวยิวและชาวอิสราเอลมากขึ้นกว่าเดิม บางส่วนได้ระบุว่าชาวยิวเป็นพวกได้คืบจะเอาศอก แต่ไหนแต่ไรมาพวกเขาไม่ได้มีแผ่นดินของตนเอง มีการกระจัดกระจายไปอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ถึงขนาดว่าช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพนาซีได้ประกาศฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเลยทีเดียว แต่แม้ชาวยิวจะผ่านช่วงเวลาอันแสนโหดร้ายมาเป็นระยะเวลาพันๆ ปีทว่าพวกเขาก็ยังคงมีความเชื่อเสมอว่าสักวันหนึ่งพระเจ้าจะต้องประทานแผ่นดินให้กับพวกเขาอีกครั้ง จากการประกาศรับรองในครั้งนี้ฝ่ายไม่เห็นด้วยซึ่งได้ออกมาแสดงทีท่าค่อนข้างชัดเจนมากเช่น ประธานาธิบดีของตุรกีและฝรั่งเศส ขณะเดียวกันในส่วนของประธานาธิบดีคาซัคสถาน, อาเซอร์ไบจาน และเลบานอนก็ได้พยายามมีความคิดให้เกิดการประชุมองค์การความร่วมมืออิสลาม เพื่อทำการแก้ไขปัญหาของการเลือกเอาเยรูซาเล็ม ให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลหรือกลุ่มไอออซิสต์ คือต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพื้นที่ของอิสราเอลในปัจจุบันก่อนหน้านี้ เคยเป็นชองชาวปาเลสไตน์มาก่อนแต่ด้วยการรุกรานของชาวยิวอย่างที่ว่าทำให้ชาวปาเลสไตน์ จำนวนมากต้องออกจากแผ่นดินเกิดตนเองไป อย่างไรก็ตามจากการประกาศของนายทรัมป์ในครั้งนี้สร้างความไม่พอใจ ให้กับชาวปาเลสไตน์อย่างมากถึงขั้นมีการชุมนุมประท้วงกันเลยทีเดียว นับว่าเป็นสถานการณ์อันแสนร้อนระอุในแถบตะวันออกกลางอีกครั้งหลังมีการประกาศยืนยันดังกล่าว

หากมองกันในภาพรวมเชื่อว่าสาเหตุที่ทรัมป์เลือกทำแบบนี้นั่นเพราะพวกเขาต้องการสร้างเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้มั่นคงแต่ในมุมมองของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กลับรู้สึกว่านี่คือสิ่งทีทำให้พวกเขาต้องรู้สึกละอาย และไม่พอใจอย่างมากกับการประกาศให้พื้นที่ดั้งเดิมของพวกเขากลายเป็นพื้นที่สำคัญของผู้รุกราน การเมืองของอิสราเอลก็จะยังคงอยู่อย่างไม่ผาสุขตราบใดที่ยังคงเกิดปัญหาสงครามตามมาเรื่อยๆ บวกกันเข้าไปอีกกับการประกาศครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะยิ่งร้อนเป็นไฟ หนักกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัวสำหรับปัญหาทางการเมืองและสงครามในพื้นที่อิสราเอลกับปาเลสไตน์