Loading

wait a moment

บทบาทผู้หญิงในฉนวนกาซ่ากับการสูญเสียนางพยาบาลอาสาสมัคร

ภาวะสงครามนั้นเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเนื่องจากสงคราม เป็นบ่อเกิดแห่งความสูญเสียกันทุกฝ่ายไม่เพียงแต่ทหารเท่านั้น บางครั้งภาวะสงครามก็ทำให้เกิดการสูญเสียไปยังส่วนอื่นด้วย อย่างเช่น นางพยาบาล หมอ ที่แม้จะอยู่ท่ามกลางสงครามมักจะถูกยกเว้นจากการสู้รบเนื่องจากหลักมนุษยธรรม แต่ไม่ใช่กับเคสนี้การสูญเสียครั้งสำคัญจากฉนวนกาซ่า

ฉนวนกาซ่า การรบที่ไม่มีวันสิ้นสุด

หากพูดถึงฉนวนกาซ่าแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากจะก้าวไปยุ่งเกี่ยวด้วยแน่นอน เนื่องจากเป็นพื้นที่สงครามอันยาวนานมาก ระหว่างอิสราเอล และ ปาเลสไตน์ ความขัดแย้งในครั้งนี้ดูท่าจะไม่จบสิ้นลงได้ง่ายๆ มันเป็นความขัดแย้งทางด้านการเมือง ประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีผู้อยู่เบื้องหลังอีกด้วย นั่นทำให้ฉนวนกาซ่าจะกลายเป็นพื้นที่สงครามและพื้นที่ทดลองอาวุธของเหล่าพ่อค้าตลาดมืดไปอีกนาน

อาสาสมัคร

พื้นที่สงครามแบบนี้ นอกจากทหารและนักรบแล้ว อีกหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ อาสาสมัครด้านพยาบาล และสาธารณสุข หน่วยการแพทย์เหล่านี้จะช่วยให้ทหารเหล่านั้นรอดพ้นจากความตาย และอาการบาดเจ็บได้ดีขึ้น ซึ่งฉนวนกาซ่าเองก็มี อาสาสมัครของทางปาเลสไตน์ ด้วย อาสาสมัครเหล่านี้มีทั้งชายและหญิง พวกเค้าจะคอยช่วยเหลือทหารจากอาการบาดเจ็บจากอาวุธและภาวะสงคราม

การสูญเสียครั้งสำคัญในฉนวนกาซ่า

โดยปกติแล้ว อาสาสมัครเหล่านี้มักจะได้รับข้อยกเว้นจากพื้นที่สู้รบ แต่บางครั้งก็อาจจะโดนลูกหลงจากอาวุธและสะเก็ดระเบิดบ้างอันนี้ก็พอเข้าใจได้ แต่การโดนยิง โดนทำร้ายแบบจงใจจากฝ่ายตรงข้ามอันนี้ไม่เคย เนื่องจากหากทำแบบนั้นแล้วจะโดนประณามอย่างมาก แต่แล้วเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็มาจนได้ อาสาสมัครปฏิบัติการฉุกเฉินรายหนึ่ง เป็นผู้หญิงนามว่า ราซาน อัล-นัจจาร์ ในวัย 21 ปี ได้เสียชีวิตลงจากคมอาวุธปืน กระสุนจากทางฝั่งอิสราเอลได้ทะลุจนทำให้เธอตายลงไป ซึ่งนำมาความโศกเศร้าต่อคนในประเทศปาเลสไตน์อย่างมาก

หนึ่งชีวิตมีอิทธิพลต่อหลายชีวิต

การเสียชีวิตของอาสาสมัครสาวคนนี้ แม้จะเป็นเพียงแค่หนึ่งชีวิตก็จริง แต่มันกลับส่งผลอีกหลายชีวิตในปาเลสไตน์ ศพของเธอได้ถูกคลุมด้วยธงชาติปาเลสไตน์ จากนั้นได้ทำพิธีแห่ไปรอบเมืองพร้อมกับประชาชนอันมากมายก่อนจะไปทำพิธีฝังศพทางตอนใต้ของฉนวนกาซ่า เมืองข่านยูนิส หลังพิธีศพของเธอได้มีการก่อจลาจลเล็กด้วยการข้ามพรมแดนรั้วลวดหนาม ไปยังอิสราเอลเพื่อชิงปืนแก๊สน้ำตาอีกด้วย เรียกได้ว่าการเสียชีวิตของสตรีผู้ไม่มีอาวุธ ในครั้งนี้ได้สร้างบาดแผลทางใจให้กับชาวปาเลสไตน์เป็นอย่างมาก ขอให้เธอเป็นผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายของสงครามครั้งนี้ด้วยเถิด